โดยนักเดินทางจาก 33 ประเทศที่สหรัฐฯให้การรับรอง จะต้องมีเงื่อนไข คือได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA)เอง หรือเป็นวัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินได้โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยต้องรับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
.
มาตรการเปิดพรมแดน ต้อนรับนักเดินทางจาก 33 ประเทศ จะมีผลทันที ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ และนับเป็นการสิ้นสุด มาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวดมากที่สุดมาตรการหนึ่งของสหรัฐฯ ที่เริ่มใช้มานานเกือบ 2 ปีตั้งแต่ต้นปี 2020 เป็นต้นมา และเป็นมาตรการที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เท่าเทียม หลังปิดพรมแดนสำหรับ “การเดินทางที่ไม่จำเป็น” ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2020
.
ปัจจุบัน สหรัฐ ยังใช้มาตรการห้ามคนที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ เดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ ถ้าหากเพิ่งอยู่ใน 33 ประเทศดังกล่าวมานาน 14 วันก่อนที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ แต่กลับไม่ห้ามคนที่เดินทางไปจากอีก 150 ประเทศ ที่ยังคงเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้อย่างเสรี แม้บางประเทศมีอัตราการระบาดของโควิด-19 สูงก็ตาม แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจากเดิมในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้!
โดย รายชื่อ 33 ประเทศ ที่กำลังจะได้รับการผ่อนคลายมาตการ มีดังนี้
.
1. ออสเตรีย
2. เบลเยียม
3. สาธารณรัฐเช็ก
4. เดนมาร์ก
5. เอสโตเนีย
6. ฟินแลนด์
7. ฝรั่งเศส
8. เยอรมนี
9. กรีซ
10. ฮังการี
11. ไอซ์แลนด์
12. อิตาลี
13. ลัตเวีย
14. ลิกเตนสไตน์
15. ลิทัวเนีย
16. ลักเซมเบิร์ก
17. มอลตา
18. เนเธอร์แลนด์
19. นอร์เวย์
20. โปแลนด์
21. โปรตุเกส
22. สโลวาเกีย
23. สโลวีเนีย
24. สเปน
25. สวีเดน
26. สวิตเซอร์แลนด์
27. สหราชอาณาจักร
28. บราซิล
29. ไอร์แลนด์
30. แอฟริกาใต้
31. อินเดีย
32 .อิหร่าน
33. จีน
ปัจจุบัน WHO ขึ้นทะเบียนเพื่อการใช้งานฉุกเฉิน ให้กับวัคซีนโควิด-19 ได้แก่ วัคซีน แอสตราเซเนก้า , วัคซีนโควิชิลด์ ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของวัคซีนแอสตราเซเนก้า ที่ผลิตในอินเดีย วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน วัคซีนโมเดอร์น่า วัคซีนซิโนฟาร์ม” และ วัคซีนซิโนแวค
ขณะที่ คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ยังให้การรับรองเฉพาะวัคซีนของผู้ผลิตในอเมริกา คือ วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และวัคซีนโมเดอร์นา
cr-https://www.springnews.co.th/news/817165